วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สัมพาที และ สดายุ


สัมพาทีและสดายุ
ครุฑมีโอรสเป็นนกสองตน ผู้พี่มีนามว่าสัมพาทีส่วนผู้น้องมีนามว่าสดายุ(ชฎายุก็เรียก) นกทั้งสองมีรูปร่างลักษณะคล้ายกันแต่กายของสัมพาทีมีสีแดงขณะที่สดายุมีกายสีเขียวสัมพาทีเป็นนกที่มีกำลังมากสามารถบินข้ามมหาสมุทรได้โดยไม่ต้องหยุดพัก ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นนกแห่งความเสียสละอันเกิดจากตำนานในครั้งอดีตเมื่อนกทั้งสองอาศัยอยู่ยังเขาอัสกรรณ สดายุเคยบินไปจะจิกกินพระอาทิตย์เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นผลไม้ ยังความรำคาญให้แก่พระอาทิตย์จนแผ่รัศมีหมายจะแผดเผาสดายุให้เป็นจุล ขณะนั้นเองที่สัมพาทีเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าจึงตรงไปสยายปีกของตนป้องร่างน้องชายเอาไว้จนขนของสัมพาทีร่วงทั้งหมดเพราะความร้อนจากแสงอาทิตย์ฝ่ายสุริยเทพเห็นดังนั้นก็ยิ่งบันดาลโทสะจึงสาปให้สัมพาทีไม่มีขนตลอดไปจนกว่าวันใดที่ทหารของพระรามกลับจากการนำแหวนไปถวายนางสีดาและมาพักยังถ้ำนี้แล้วโห่ขึ้นสามลาจึงค่อยให้ขนงอกขึ้นมาอีกครั้ง
--------------------------------------------------------
นกสดายุหรือชฎายุนั้นมีบทบาทอยู่ในเรื่องรามเกียรติ์โดยในตำนานกล่าวว่าสดายุเป็นเพื่อนกับพระชนกของพระราม วันหนึ่งสดายุเห็นทศกัณฐ์กำลังลักนางสีดาจึงเข้าต่อตีจนทศกัณฐ์ไม่อาจต้านทานฤทธิ์ได้ สดายุบังเอิญเผยความลับไปว่าทั้งสามโลกนี้ตนไม่หวั่นเกรงสิ่งใดๆยกเว้นพระศิวะ พระวิษณุ และธำมรงค์ที่สีดาสวมใส่อยู่ทศกัณฐ์ครั้นแจ้งดังนั้นจึงถอดธำมรงค์ของนางสีดาออกโดยไวแล้วขว้างไปโดนปีกนกสดายุหักลงจนบินต่อไม่ได้ ต่อมาพระรามออกตามหานางสีดาผ่านมาพบนกสดายุจึงได้ความว่ากรุงลงกาที่ทศกัณฐ์ลักนางสีดาไปนั้นอยู่ ณ แห่งใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น